หลังจากสิ้นปี 2483 ครูนิตย์ นพคุณ ย้ายไปเป็นครูใหญ่โรงเรียนประจำจังหวัดปัตตานี ปี 2484 นายสวัสดิ์ ภูมิรัตน์ ย้ายมาดำรงตำแหน่งครูใหญ่และ เป็นช่วงที่เกิดสงครามเอเซียบูรพา กองทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบก ตามเมืองริมฝั่งทะเลของอ่าวไทย ที่สงขลาทหารญี่ปุ่นเข้าพักตามวัดและโรงเรียนต่างๆ โรงเรียนมหาวชิราวุธก็เช่นกันทหารญี่ปุ่นยึดเป็นที่พัก และได้ใช้หนังสือในห้องสมุด โต๊ะเรียน เก้าอี้ ทำเป็นฟืนหุงข้าวจนหมด
ต่อมาปี พ.ศ. 2485 กรุงเทพฯ ถูกโจมตีทางอากาศ กระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศปิดโรงเรียน และงดสอบไล่ โดยถือว่านักเรียนที่มีเวลาเรียนร้อยละ 60 ขึ้นไป สอบไล่ได้ทุกคน
ต่อมาปี พ.ศ. 2485 กรุงเทพฯ ถูกโจมตีทางอากาศ กระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศปิดโรงเรียน และงดสอบไล่ โดยถือว่านักเรียนที่มีเวลาเรียนร้อยละ 60 ขึ้นไป สอบไล่ได้ทุกคน
ต้นปี พ.ศ.2486 นายสวัสดิ์ ภูมิรัตน์ ย้ายไปเป็นอาจารย์โรงเรียนฝึกหัดครู อาจารย์สุดใจ เหล่าสุนทร ครูใหญ่โรงเรียนประจำจังหวัดปัตตานี ย้ายมาแทน เมื่อสิ้นปีได้ย้ายกลับเข้ากรุงเทพฯ อาจารย์พงศ์อินทร์ ศุขขจร ครูใหญ่โรงเรียนประจำจังหวัดพัทลุง จึงย้ายมาดำรงตำแหน่งแทน เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง
ในปี พ.ศ.2488 มีการเปลี่ยนแปลงในการจัดการศึกษาในระดับมัธยมขึ้นใหม่ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบในการเปิดสอนระดับเตรียมอุดมศึกษาขึ้นในโรงเรียนบางแห่งเช่นเดียวกับที่เคยจัด
ระดับ ม.7 – ม.8 ในสมัยก่อน โดยโรงเรียนมหาวชิราวุธ ได้เปิดแผนกอักษรศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ อย่างละ 1 ห้องเรียน ในช่วงนี้ อาคารที่ใช้เรียนมีเพียง 2 หลัง คือ อาคารรูปตัวยู(U) และอาคาร 2487 ซึ่งคับแคบและชำรุดทรุดโทรมมากทำให้ อาจารย์พงศ์อินทร์ ศุขขจร จึงดำริที่จะสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ให้งดงามทันสมัย และพอเพียงกับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลายๆฝ่าย ทั้งพ่อค้า ประชาชน และข้าราชการ บริจาคเงินเป็นทุนก่อสร้างในเบื้องต้นเป็นจำนวนมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น